ตอนเข้าโรงตั้งใจจะไปดูเรื่องนี้ แต่ติดงานมาก พอเข้าnf ดีใจมากก รีบกดไปดูเลย สิ่งที่ทำให้น่าสนใจคือ นักแสดง ทั้ง นนกุล เก้า โจ๊ก + เป็นหนังแนวรอมคอมซึ่งเป็นแนวที่ค่อนข้างแมสในบ้านเรา
**ต้องบอกก่อนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ**
มาพูดถึงข้อดีกันดีกว่า
แคสนักแสดงมีความน่าดึงดูด เพราะแต่ละคนก็ค่อนข้างมีชื่อเสียง ถ้าใครพอจะติดตามหนังจีดีเอช ค่ายนาดาว ฮอร์โมน ก็น่าจะคุ้นน่าคุ้นตาเป็นอย่างดี งานภาพโทนสีถือว่าดีตามมาตรฐานหนังไทย แอคติ้งนักแสดงในฉากอารมณ์ทำให้เราอินได้(แม้บทจะไม่เอื้อเท่าไหร่) คาแรคเตอร์ของดื้อ ทำได้ชัดเจนดี สมกับเป็นชื่อเรื่อง ถึงบางทีมันจะโอเวอร์ไปบ้าง แต่ผมไม่ติดเพราะมันไม่ใช่หนังที่ต้องการความเรียลอยู่แล้ว การผูกให้ตัวเองเป็นนักกีฬาวิ่ง มันทำให้ตัวละครนี้โดดเด่นและมีกิมมิคเป็นของตัวเอง ดีกว่าให้เป็นนศ.เฉยๆ
ข้อเสีย
คห.ส่วนตัวมองว่าหนังค่อนข้างเดินตามสูตรหนังไทย ทำในเรื่องบท ที่มาทรงนี้สุดท้ายยังไงก็ต้องคนละสายเลือดแน่ๆ อีกประเด็น คือ หนังค่อนข้างมีจังหวะในการตบมุก ซาวด์คล้ายกับหนังคล้ายอีกค่ายมากๆ ไหนจะมุกตลกที่แทบจะไม่ครีเอทเลย ถ้าใครดูจะรู้ว่ามันคือมุกที่เราเคยเห็นตามรายการทีวี คาเฟ่ ไม่รู้ผใคิดไปเองคนเดียวมั้ย บางฉากการตบมุข มุมกล้อง ทั้งตัวบทเอง แทบจะคล้ายในหนังATMมากกก(ไม่ได้บอกว่าเขาลอกนะ แต่มันคล้ายมาก) และที่สำคัญมุกแป้กมาก ขำเต็มทีคือ หึหึ นับครั้งได้อะ ตับใหญ่อย่างตอนที่ใช้เครื่องกายภาพไฟฟ้าผมก็ไม่ขำเลย แต่หนังก็ขยี้หนักมาก
พลอตเรื่องจะหาอะไรฉีกๆอะมันก็ยาก ยิ่งยุคนี้

ยิ่งมีตัวละครโจ๊กso cool คาแรคเตอร์แทบจะถอดมาจาก ATMเออรักเออเร่อเลย ปกติคนก็ติดภาพแกในบททำนองนี้อยู่แล้ว มันทำให้เกิดภาพซ้อนทั้งในพาร์ทคอมเมดี้ และตัวละครที่โจ๊กเล่น ถามว่าบทนี้มีได้ไหม ก็มีได้นะแต่ถ้าใช้แคสคนอื่นไปเลยจะดีกว่านี้ หรือถ้าอยากได้โจ๊กจริงๆก็ควรจะฉีกคาแรคเตอร์
ตัวบทเดินเรื่องไม่ค่อยสมูท ช่วงต้นเรื่องน้ำเยอะ แบ่งสัดส่วนไม่ดี หลังจากที่ปูตัวละครความสัมพันธ์เสร็จหนังใช้เวลาไปกับการเล่นมุก แบบอัดมาเยอะมาก ประมาณ40นาทีได้ แต่เนื้อเรื่องไม่ได้ขยับอะไร(ถ้ามันฮา ผมอาจจะโอเคก็ได้ แต่ผมไม่ฮานี่สิ) ช่วงสุดท้ายหนังเฉลยว่า ดื้อแอบชอบน้ามาตลอด(ดื้อสารภาพเอง) แต่ทั้งเรื่องที่ดูมา เราไม่เห็นซักฉากที่ดื้อจะแบบเพ้อถึงน้าแบบออกหน้าออกตาอะว่าชอบ ผมดูเเล้วการกระทำดื้อเหมือนกับ"คนที่ไม่รู้ใจตัวเอง" มากกว่า พอหนังมาบอกว่าแอบชอบมาตลอดมันเลยดูขัดๆ เป็นเรื่องของความสมเหตุสมผลกับมิติตัวละคร
สุดท้ายคือเรื่องโปรดักชันท์ครับ ตรงนี้ค่อนข้างจะเป็นเหตุผลส่วนตัว ถ้าตั้งใจเลือกโลเคชั่นให้น่ามอง มันก็ช่วงยกระดับหนังขึ้นอีกหน่อยนึง ไม่อยากเทียบกับเรื่องอื่นนะ แต่ห้องของน้า คอนโด โรงพยาบาล เราว่ามันสามารถหาที่ๆมันดูสวยกว่านี้ได้ ตัวโรงพยาบาลดูค่อนข้างโทรม แต่แบบที่หนังเสอนมันก็เรียลแหละ แต่ด้วยโทนอะไรเอย มันไม่ได้ต้องเรียลขนาดนั้น แค่การกระทันตัวลครก็เวอร์แล้ว
สรุปสุดท้าย หนังมีวัตถุดิบที่ดี แต่ปรุงออกมาไม่กลมกล่อม และยึดติดกับสูตรเดิมมากเกินไป จนเกิดความจำเจ อย่างเช่นมุกก็เอามุกเก่าๆมาเล่น ไม่ค่อยเห็นความครีเอทีฟเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับหนังในค่ายที่ฉายก่อนหน้านี้ ผมให้ไบค์แมนสนุกกว่า
ความรู้สึกหลังดู มิสเตอร์ดื้อ(Netflix) หนังแนวรอมคอมที่ยังอยู่ในเซฟโซน
**ต้องบอกก่อนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ**
มาพูดถึงข้อดีกันดีกว่า
แคสนักแสดงมีความน่าดึงดูด เพราะแต่ละคนก็ค่อนข้างมีชื่อเสียง ถ้าใครพอจะติดตามหนังจีดีเอช ค่ายนาดาว ฮอร์โมน ก็น่าจะคุ้นน่าคุ้นตาเป็นอย่างดี งานภาพโทนสีถือว่าดีตามมาตรฐานหนังไทย แอคติ้งนักแสดงในฉากอารมณ์ทำให้เราอินได้(แม้บทจะไม่เอื้อเท่าไหร่) คาแรคเตอร์ของดื้อ ทำได้ชัดเจนดี สมกับเป็นชื่อเรื่อง ถึงบางทีมันจะโอเวอร์ไปบ้าง แต่ผมไม่ติดเพราะมันไม่ใช่หนังที่ต้องการความเรียลอยู่แล้ว การผูกให้ตัวเองเป็นนักกีฬาวิ่ง มันทำให้ตัวละครนี้โดดเด่นและมีกิมมิคเป็นของตัวเอง ดีกว่าให้เป็นนศ.เฉยๆ
ข้อเสีย
คห.ส่วนตัวมองว่าหนังค่อนข้างเดินตามสูตรหนังไทย ทำในเรื่องบท ที่มาทรงนี้สุดท้ายยังไงก็ต้องคนละสายเลือดแน่ๆ อีกประเด็น คือ หนังค่อนข้างมีจังหวะในการตบมุก ซาวด์คล้ายกับหนังคล้ายอีกค่ายมากๆ ไหนจะมุกตลกที่แทบจะไม่ครีเอทเลย ถ้าใครดูจะรู้ว่ามันคือมุกที่เราเคยเห็นตามรายการทีวี คาเฟ่ ไม่รู้ผใคิดไปเองคนเดียวมั้ย บางฉากการตบมุข มุมกล้อง ทั้งตัวบทเอง แทบจะคล้ายในหนังATMมากกก(ไม่ได้บอกว่าเขาลอกนะ แต่มันคล้ายมาก) และที่สำคัญมุกแป้กมาก ขำเต็มทีคือ หึหึ นับครั้งได้อะ ตับใหญ่อย่างตอนที่ใช้เครื่องกายภาพไฟฟ้าผมก็ไม่ขำเลย แต่หนังก็ขยี้หนักมาก
พลอตเรื่องจะหาอะไรฉีกๆอะมันก็ยาก ยิ่งยุคนี้
ยิ่งมีตัวละครโจ๊กso cool คาแรคเตอร์แทบจะถอดมาจาก ATMเออรักเออเร่อเลย ปกติคนก็ติดภาพแกในบททำนองนี้อยู่แล้ว มันทำให้เกิดภาพซ้อนทั้งในพาร์ทคอมเมดี้ และตัวละครที่โจ๊กเล่น ถามว่าบทนี้มีได้ไหม ก็มีได้นะแต่ถ้าใช้แคสคนอื่นไปเลยจะดีกว่านี้ หรือถ้าอยากได้โจ๊กจริงๆก็ควรจะฉีกคาแรคเตอร์
ตัวบทเดินเรื่องไม่ค่อยสมูท ช่วงต้นเรื่องน้ำเยอะ แบ่งสัดส่วนไม่ดี หลังจากที่ปูตัวละครความสัมพันธ์เสร็จหนังใช้เวลาไปกับการเล่นมุก แบบอัดมาเยอะมาก ประมาณ40นาทีได้ แต่เนื้อเรื่องไม่ได้ขยับอะไร(ถ้ามันฮา ผมอาจจะโอเคก็ได้ แต่ผมไม่ฮานี่สิ) ช่วงสุดท้ายหนังเฉลยว่า ดื้อแอบชอบน้ามาตลอด(ดื้อสารภาพเอง) แต่ทั้งเรื่องที่ดูมา เราไม่เห็นซักฉากที่ดื้อจะแบบเพ้อถึงน้าแบบออกหน้าออกตาอะว่าชอบ ผมดูเเล้วการกระทำดื้อเหมือนกับ"คนที่ไม่รู้ใจตัวเอง" มากกว่า พอหนังมาบอกว่าแอบชอบมาตลอดมันเลยดูขัดๆ เป็นเรื่องของความสมเหตุสมผลกับมิติตัวละคร
สุดท้ายคือเรื่องโปรดักชันท์ครับ ตรงนี้ค่อนข้างจะเป็นเหตุผลส่วนตัว ถ้าตั้งใจเลือกโลเคชั่นให้น่ามอง มันก็ช่วงยกระดับหนังขึ้นอีกหน่อยนึง ไม่อยากเทียบกับเรื่องอื่นนะ แต่ห้องของน้า คอนโด โรงพยาบาล เราว่ามันสามารถหาที่ๆมันดูสวยกว่านี้ได้ ตัวโรงพยาบาลดูค่อนข้างโทรม แต่แบบที่หนังเสอนมันก็เรียลแหละ แต่ด้วยโทนอะไรเอย มันไม่ได้ต้องเรียลขนาดนั้น แค่การกระทันตัวลครก็เวอร์แล้ว
สรุปสุดท้าย หนังมีวัตถุดิบที่ดี แต่ปรุงออกมาไม่กลมกล่อม และยึดติดกับสูตรเดิมมากเกินไป จนเกิดความจำเจ อย่างเช่นมุกก็เอามุกเก่าๆมาเล่น ไม่ค่อยเห็นความครีเอทีฟเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับหนังในค่ายที่ฉายก่อนหน้านี้ ผมให้ไบค์แมนสนุกกว่า